Loading
Search In RotTourThai.com


กลับไป   Forums > RotTourThai.com > เรื่องทั่วไป พักผ่อนหย่อนใจ
คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน กระทู้ใหม่วันนี้

หัวข้อถูกปิด
 
คำสั่งเพิ่มเติม ค้นหาในหัวข้อนี้ เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 01-18-2010, 02:02 AM
รูปส่วนตัว SpyBT
SpyBT SpyBT is offline
Member
 
วันที่สมัคร: Jan 2010
กระทู้: 44
มาตรฐาน ครั้งหนึ่งในชีวิต

สวัสดีครับ ก่อนอื่น ต้องแนะนำตัวก่อน ผมชื่อศรนะครับ อายุ 20 ปี วันนี้ผมแค่อยากมาเล่าประสบการณ์ในชีวิตของผมที่หลาย ๆคนคงไม่อยากเจอ ไม่อยากสัมผัส ไม่อยากพบ ไม่อยากเห็น

คงต้องเล่าไปถึงตอนปี 2550 วันที่ 4 ธันวา ก่อนวันพ่อ ผมพาพ่อไปดูการซ้อมน้ำพุดนตรี พร้อมกับให้คำสัญญากับพ่อว่า พรุ่งนี้ผมจะพาพ่อมาดูนะครับ วันนั้น ผมพาพ่อไปขับรถเล่นในตัวเมืองสุราษฎร์ เพื่อชมสถานที่ราชการ ที่เค้าตกแต่งไว้สำหรับวันพ่อ

ตื่นเช้ามาวันพ่อ ผมตื่นมาประมาณ 11 โมงเช้า เพราะญาติๆผมมาทานข้าวที่บ้าน ผมก็ตื่นอาบน้ำ แล้วไปทานข้าวกับพี่ๆ เพราะตอนเที่ยง ผมมีนัดกับแฟนสาว ว่าจะพาเธอไปซื้อโทรศัพท์มือถือที่ห้างโลตัส
ผมออกจากบ้านก่อนเที่ยง แวะไปที่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่ผมสนิท เพราะผมต้องไปที่นั่นทุกวัน เหมือนมันติดเป็นนิสัย แต่วันนั้น ไม่รู้ทำไม ผมไปจอดหน้าร้าน ไม่ดับเครื่อง ทักทายพี่เค้า 2-3 คำ แล้วก้อขี่รถออกมา เพื่อไปบ้านแฟนผม

ผมเลี้ยวที่สี่แยกแรก เห็นสี่แยกถัดไป เวลาของไฟเขียวเหลือน้อยแล้ว ประมาณ 10กว่าวิ ด้วยความที่คิดในใจว่า
‘รถกูแรงว๊อย ยังงัยก็ไปทันไฟเขียวอยู่แล้ว’ ก็เลยบิดส่งเลยทีนี้ ก้มมองหน้าปัด เข็มไมล์ชี้ไปที่เลข 100 พอเงยหน้าขึ้นมา อิ๋บอ๋าย รถยนมันเลี้ยวตัดหน้า ผมบีบแตรไป เหมือนมันจะไม่ได้ยิน ไม่ทันคิดว่าจะหลบหรือเบรก “โครม!” ผมชนกับรถกระบะคันนั้น เร็วเท่าความรู้สึก ผมลอยขึ้นประมาณตึก 2 ชั้น (คนแถวนั้นเล่ามา) แล้วหล่น “ตุ๊บ” ลงบนฝากระโปรงรถ (อันนี้รู้สึกได้เอง) แล้วก็กลิ้ง รู้สึกแม้กระทั่งกลิ้งผ่านฝาท่อระบายน้ำ จนหยุด ผมรู้สึกว่ามีน้ำไหลออกจากจมูก เอามือจับดู ไม่ใช่เลือดนี่หว่า ไม่เป็นไรๆๆ พลันได้ยินเสียง น้อง..เป็นอะไรมั้ย? (ในใจผมคิด เมิงมิดูกุเล้ยย) ผมหันไปดู คงจะเป็นคนขับรถคันนั้น จะมายกผม ผมเลยบอกว่า “ไม่ต้องครับๆๆๆๆๆๆ” เค้าก็เดินหายไปเลย ผมเลยหยิบโทรศัพท์มือถือ ตอนนั้นผมใช้ N-Gage รุ่นเก่า สุดคลาสสิก มาโทร กดเบอร์บ้าน กดเองด้วย จำได้ทุกตัว พอจะกดโทร เอ้าเฮ้ย ติดหมวกกันน๊อค ผมเลยถอด แล้วโทรหาแม่

แม่รับ “ฮัลโหล”

ผมบอก “แม่..รถชน ที่สี่แยกตาปี”

แม่ “เดี๋ยวแม่ไป” ผมก็วาง

ตอนนั้น จะร้อง ก็ไม่ออก มันเป็นความรู้สึกลึกๆ ผมก้มมองขา ซึ่งผมนอนตะแคงขวาอยู่ ขาซ้ายของผม มันไม่ตรง มันเอียง แล้วก็บิดอย่างเห็นได้ชัด มีป้าคนนึง วิ่งมาบอก “เอายาดมจ๊ะลูก” ผมเลยบอกไปว่า “ขอบคุณครับ” ตอนนั้น ผมได้แต่นอน บนถนน หันดูรอบๆ ผู้คนเป็นร้อย มายืนมุงทั้งสี่แยก สักพักรถกู้ภัยก็มา พาผมขึ้นรถไปโรงพยาบาล ระยะทางนั้นไม่ไกล แต่สำหรับผมตอนนั้น นานมากๆครับ คิดกังวล หลายๆเรื่อง ตอนนั้น เหมือนคนที่ไม่เหลืออะไรแล้ว การเรียนต้องหยุด พอไปถึงโรงพยาบาล ก็เข้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลก็มาทดสอบ ว่าผมยังมีสติมั้ย เค้าถามผม ผมก็ตอบ จนเค้ารู้ว่า สมองผมไม่เป็นอะไร เค้าถึงไป สักพักพี่สาวผมมา พี่สาวผม ทำงานที่ธนาคารใกล้ๆ จุดเกิดเหตุ แกเลิกงานพอดี ขับรถผ่าน แกก็จอด แล้วแกก็ร้องตั้งแต่สี่แยก จนมาถึงโรงพยาบาล ไม่ต้องถามนะครับว่าแกร้องทำไม คุณลองนึกสภาพรถมอเตอร์ไซค์ เวฟ 100 ที่ขับมาด้วยความเร็ว 100 มาชนกันรถกระบะ มันจะสภาพยังงัย แม่ผมบอกว่า มันเหลือแต่ ‘เบาะ กับล้อหลัง’ สักพักแม่ผมก็มา ให้พี่สาวอีกคนไปติดต่อเดินเรื่อง พยาบาลเดินมาถาม “น้องจะถอดกางเกงหรือให้พี่ตัดค่ะ” “ถอดครับ” ตอบแบบไม่ทันคิด เพราะกางเกงเพิ่งซื้อ สักพัก เหมือนคิดได้ “ตัดไปเลยครับ” ตอนนั้น ถ้าถอดคงทรมานน่าดู มันเป็นครั้งแรก ที่ผมแก้ผ้า โดยไม่รู้สึกอาย กับสาวๆยังอายบ้าง แต่ตอนนี้ถึงอาย ก็วิ่งไปไหนไม่ได้

สักพัก มีพยาบาลถือเข็มฉีดยา มาจิ้มๆๆๆๆ แล้วพาไป X-ray ผลออกมาว่า ผมขาหัก 2 ข้าง โดยข้างขวา หัก 3 ท่อน - -* ข้างซ้าย 2 ท่อน T_TT โดยหักที่ต้นขาทั้ง 2 ข้าง ตอนนั้น ผมท้อ แต่ผมไม่ร้อง ไม่อ่อนแอ คนรอบข้างผมอ่อนแอกันหมด ผมไม่มีกำลังใจจากไหนเลย นอกจาก...แม่ แม่ผมไม่ร้องเลยครับ ให้กำลังใจผมตลอด จนผมได้ไปอยู่เตียงรวมในวันแรก คืนแรกผ่านไป คือคืนวันพ่อ ตั้งแต่กลางวัน ถึงตอนนี้ ประมาณ 2 ทุ่ม พ่อผมยังไม่มาหาผมเลย เพราะอะไรหรอครับ พี่ชายผมเคยโดยรถชนตาย โดยโดนรถบัส สุราษฎร์-พุนพิน ชนแล้วลากพี่ชายผมข้ามสะพาน ผมเข้าใจ ว่าความรู้สึกพ่อเป็นยังงัย ผมไม่กล้าคุยกันพ่อ ไม่ได้กลัวความผิดหรอกครับ แต่กลัวความรู้สึกพ่อมากว่า ผมใช้ให้พี่ไปนอนกับพ่อ แต่พ่อบอกว่า “ถ้ามึงมาอยู่นี้ กูจะไปอยู่ที่อื่นแทน” คืนนั้น หลายผมไปอยู่กับพ่อผมครับ พาพ่อไปดูน้ำพุดนตรีแทนผม ราวๆ3 ทุ่ม ผมก็ต้องไปเจาะหน้าแข้ง เพื่อใส่น้ำหนัก ถ่วงขาไว้ ให้กล้ามเนื้อยืด ไม่หดตัว เป็นครั้งแรกที่ผมอยู่หน้าห้องผ่าตัด บรรยากาศยิ่งกว่าวัดตอนดึกๆ ใจเต้นตึกๆตักๆ เพราะเห็นอุปกรณ์ที่หมอใช้ มันเป็นสว่านมือ แบบใส่ถ่าน พร้อมเหล็ก (สเตนเลสนั่นแหละ) ยาวประมาณเกือบฟุต ปลายด้านนึงเป็นคล้ายๆดอกสว่าน แค่นี้ก็เสียวแล้วใช่มั้ยครับ พอหมอมา ก้อเอายาชาฉีดที่หน้าแข้ง เอามีดกรีด เอาเหล็กใส่ในสว่าน จิ้มเข้าไปตรงที่มีดกรีด แล้วกด วิ้ดดดดดดดดดดดๆ ตอนนั้น แทบบ้า มันเสียวในกระดูก ยิ่งกว่าอุดฟัน เสียวแบบสุดๆ โอยยย หมดแรง

กลับมานอนที่ห้องรวมเหมือนเดิม ผมหลับไปยังงัยไม่รู้ ตื่นมาเมื่อไหร่ แม่ผมฟุบหลับอยู่ข้างเตียงตลอด ผมบอกให้แม่ไปนอน แม่ก็ไม่ไปนอน จนเกือบเช้า แม่คงเพลีย เลยไปนอน
ตื่นเช้ามา คู่กรณีผมมาเยี่ยม มากับสารวัตร สารวัตรมาแปปนึงก็ไป พอเหลือแต่คู่กรณี และแม่ผม เท่านั้นแหละ ผมก็เห็นน้ำตาของแม่ผมทันที T_TT ตลอดมา ผมไม่เคยทำให้แม่ผมเสียน้ำตา แต่ตอนนี้.........

ผมพูดไรไม่ถูก ไม่คุยกับคู่กรณีผม พร้อมบอกว่า “ผมจะฟ้องคุณ” ตอนสายๆ ผมโทรหาพ่อ พร้อมทั้งบอกว่า ผมไม่เป็นไร( ก็ไม่เป็นไรจริงๆนี่ครับ ตัวผมไม่มีแผลถลอกเลย มีแต่ขาหักอย่างเดียว) แค่ขาหักข้างเดียว พ่อก็เหมือนอุ่นใจ มาหาผม พอมา แกก็หยิบฟิล์ม X-ray มาดู แกก็คงรู้ แต่แกเห็นผมมีกำลังใจ ผมไม่อ่อนแอ แกก็เบาใจไปเยอะ ตอนบ่ายๆ พี่สาวโทรมา ว่าเดี๋ยวจะได้ห้องพิเศษ VIP ซะด้วย(ใช้เส้น..) พอได้ย้ายไปห้องพิเศษ โห..โคตรสบาย ตอนนี้มีคนมาเยี่ยมเยอะแยะเลย ของกินเพียบ แต่กินไรไม่ได้เลย ไมโลกล่องนึง ดูด 4 รอบ กว่าจะหมด อยู่ได้ 2 วัน ก็ผ่าตัด ดามเหล็ก ก่อนผ่าตัด ต้องเดรนฉี่ สวนเข้ สวนนี่ไม่เท่าไหร่ เด็กๆนี่เคย แต่เดรนฉี่ แบบว่า เอาท่อยาง มาล่วงละเมิดรูฉี่ของนู๋ (ผมผู้ชายนะครับ)เห้อเจ็บโคตรๆเช่นเดิม พอตอนเที่ยง มานอนหน้าห้องผ่าตัดอีกแล้ว...สักพักโดนเข็นเข้าไป ผมถามหมอว่า วางยาสลบหรอ หมอบอก “ป่าว บล๊อคหลัง” เห้อ...ตายแน่กรู(นึกในใจ) ผู้ช่วยหมอ(วิสัญญี) ก็จับผมนั่ง ทั้งๆที่นั่งไม่ค่อยได้ ฉีดไรไม่รู้ ที่กระดูกสันหลัง อย่าถามว่าเจ็บมั้ย? ....เจ็บโคตรๆครับ จากนั้น อุปกรณ์ทั้งหลายเอามาแปะๆ หนีบๆ แอร์ก็เย็นยะเยือก มีหมอนลมอุ่นๆพอช่วยหน่อย ผมนอนในท่าตะแคงซ้าย หมอเอาอะไรมาทาที่ขาก็ม่ายรุ แล้วก้อเอามีดกรีดดดดดดดดด แล้วแหวก แล้วกรีด ทำอยู่นั่น จนผมปวดหลัง เลยบอกผู้ช่วยเค้า เค้าเลยเอายาสลบมาฉีด ยังมิวาย อยากลองของ พอฉีดปุ๊ป นับ 1…2…3…4…5…6…แล้วหลับไปตอนไหนก็ม่ายรู้ ตื่นมาอีกที เจอหน้าแม่ แล้วก็หลับไปอีก ตื่นมาก็อยู่ในห้องแระ ตอนนั้น คนเพียบ เสียงเหมือนตลาดนัดเลย พร้อมกับความรู้สึกที่ว่า โอ้ยยยย!! เจ็บ........... แม่ เรียกพยาบาลให้หน่อย พยาบาลก็เอามาฉีดให้ 1 เข็ม หลับไป ตื่นมาเช้า อยู่โรงพยาบาลจนครบ 16 วัน มันเป็น 16 วันที่ทรมาน ภาพเดิมๆตอนตื่น วิวเดิมๆนอกกระจก กว่าจะได้กลับบ้าน เห้อ....พอมาถึงบ้าน ว้าวว บ้านกรู บอกแม่ “เอากรงหนูแฮมให้หน่อย” จัดการเอาหนูแฮมมาอุ้ม แล้วเข้าไปนอนในห้อง เปิดคอม ฟังเพลง ไม่กี่วัน สารวัตรก็มา สารวัตรท่านดีมากครับ บ้านอยู่หลังบ้านผม หมอก็อยู่หลังบ้านผม อะไรๆก็ช่างพอดี ท่านมาสอบปากคำผม แล้วตัวแทนประกันของคู่กรณีก็มา ผมบอก ผมฟ้อง เอาตัง 250,000 บาท เค้าบอก ให้ได้ 30,000 แม่ผมบอกเลย ไม่เอา ค่อยไปเจอกันในศาล รู้มั้ยครับ บริษัทประกันของอะไร สินมั่นคง ประกันภัย โฆษณาบอกโคตรเร็ว แต่ของจริง ช้ามากมาย ตอนผมจะออกจากโรงพยาบาล ประกันยังไม่มาทำเรื่องที่โรงพยาบาลเลยครับ จนแม่ผมเร่ง มันถึงจะมา ดีแต่โฆษณาจริงๆ สุดท้าย เรื่องถึงศาล ศาลเรียกตัวผม แล้วก็คู่กรณี ไปให้ปากคำ ตู่กรณีผมเอาเงินไปวางไว้ 30,000 (มันฉลาดครับ) แล้วมันก็ไปเร่งประกัน ให้จ่ายผมเต็มพิกัด เพราะมันกลัวคุกครับ ประกันโทรมา บอกให้ไปเอาเช็ค 150,000 แม่ผมก็ไปเอา แล้วก็ให้สารวัตรไปถอนฟ้อง สรุป ผมได้เงินค่าทำขวัญมา 180,000 ค่ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 80,000 กว่า ค่าซ่อมรถด้วย แต่ถึงผมจะได้สัก 10 ล้านก็ไม่คุ้มครับ

ผมหยุดเรียนไป 2 ปี แล้วกลับมาเรียนปี 1 ใหม่ หัวเข่าก็ไม่ดี วิ่งไม่ได้ มันจะพับเอา

สุดท้าย อยากฝากถึงทุกคน

อุบัติเหตุเกิดได้ทุกที่ ถึงเราไม่ประมาท แต่อาจมีคนอื่น ที่ประมาทมาเจอกับเรา หากเวลา และสถานที่มันเหมาะสม รู้มั้ยครับ เหตุผลที่เค้าบอก เค้าบอกว่า “พี่มองไม่เห็น”
พ่อและแม่ และญาติพี่น้อง กำลังใจนี่สำคัญนะครับ พี่ผม ก่อนทำงาน แวะมาหาผม มาดูผม 10 นาที แล้วก็ไปทำงาน พ่อผม มาอยู่กับผมทุกวัน แม่ผม กลับไปนอนบ้านบ้าง เพราะต้องเก็บตัง ความรู้สึกของพ่อแม่ ที่รักเรา ผมสัมผัสได้เลยครับ ตอนนี้ ผมรักพ่อกับแม่มาก ตอนนี้ผมอยู่ห่างพ่อกับแม่ ทุกครั้งที่มีปัญหา ผมจะปรึกษาแก บางครั้ง ผมโทรหา แล้วร้องกับแก เพราะแค่คิดถึง ตอนนี้ถ้ามหาลัยปิดเกิน 5 วัน ผมจะกลับบ้าน ไปหาพ่อแม่

“ผมรักพ่อ กับ แม่ มากที่สุดในโลกเลยครับ”

ขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาอ่าน ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตผม หวังว่าคงมีประโยชน์ต่อทุกๆคนนะครับ

  #2  
เก่า 01-18-2010, 08:26 AM
รูปส่วนตัว ช้อปเปอร์476
ช้อปเปอร์476 ช้อปเปอร์476 is offline
NETWORK - RTT
 
วันที่สมัคร: Nov 2009
กระทู้: 1,363
มาตรฐาน

เป็นบทเนียนครั้งสำคัญของชีวิตเลยครับ พึงระลึกอยู่เสมอว่าความประมาทเป็นหนทางนำไปสู่ความต ายนี่โชคยังดีนะที่แค่ขาหัก ความเร็วขนาดนั้นเนี่ย คนเราไปได้ง่ายๆเลยนะครับ
  #3  
เก่า 01-18-2010, 09:04 AM
รูปส่วนตัว SpyBT
SpyBT SpyBT is offline
Member
 
วันที่สมัคร: Jan 2010
กระทู้: 44
มาตรฐาน

เหตุการณ์นี้ ผมนึกทีไร มีกำลังใจขึ้นมาทุกครั้ง ความผิดพลาดมันสอนอะไรดีๆให้เราเสมอครับ...:?
  #4  
เก่า 01-18-2010, 05:16 PM
รูปส่วนตัว เด็กตากไกลบ้าน
เด็กตากไกลบ้าน เด็กตากไกลบ้าน is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
กระทู้: 261
Talking

ของแบบนี้น่ากลัวคับ

พอดีช่วงนี้ฝึกอยู่ตึกศัลยกรรมกระดูก

มีแต่คนไข้กระดูกหักจากอุบัติเหตุมาคับ

เลยพอจะรู้ว่าอาการพวกเขานั้นเป็นยังไง
  #5  
เก่า 01-23-2010, 07:00 PM
รูปส่วนตัว cybershot
cybershot cybershot is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Dec 2009
กระทู้: 351
มาตรฐาน

โอ้... จากที่ผมชอบขับรถเร็ว .. อ่านแล้ว .. ใจแป่ว ทันทีเลย ..

จากเคย ขับ 120 ก็คงจะเหลือ แค่ 115 ก็ พอ .. เฮ่อ .. ไม่ อยากคิด เลย ถ้า เกิด กับเรา
  #6  
เก่า 01-23-2010, 07:43 PM
BTMCTLA BTMCTLA is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2008
กระทู้: 754
มาตรฐาน

อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ cybershot อ่านกระทู้
โอ้... จากที่ผมชอบขับรถเร็ว .. อ่านแล้ว .. ใจแป่ว ทันทีเลย ..

จากเคย ขับ 120 ก็คงจะเหลือ แค่ 115 ก็ พอ .. เฮ่อ .. ไม่ อยากคิด เลย ถ้า เกิด กับเรา
110 ก็เหลือเฟือแล้วครับ จริงๆแค่ 100 ก็กำลังดีแล้วครับ ช้านิดช้าหน่อยแต่ปลอดภัย

ผมก็เคยเจอ อบ. เหมือนกันครับ สมัยก่อนนั่งมอไซด์ที่พ่อขับ ยังไม่มีรถกระบะคันที่เห็น มอไซด์มันตัดหน้า พ่อก็ขับรถเร็วด้วย เบรคหน้าดู ชนที่ความเร็วประมาณ 70 ได้ โชคดีที่มีแผลถลอกกับกระดูกเข่าขวาร้าว เข้าเฝือกอยู่เดือนกว่าๆก็หาย แต่พ่อผมซิคับ ขับมอไซด์ทำงาน แล้วโดนรถชนมา 3 รอบ รถยนต์มั่ง รถบรรทุกมั่ง โชคดีรอดมาทุกครั้ง แต่กระดูกหักเกือบทั่ว อบ.นี่เกิดได้ทุกเวลาจริงๆ เขาไม่ชนเรา เราก็ชนเขา
  #7  
เก่า 01-24-2010, 07:31 AM
รูปส่วนตัว UN65
UN65 UN65 is offline
System & Operation
 
วันที่สมัคร: May 2008
กระทู้: 3,024
มาตรฐาน

รอดมาได้แล้วก็เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้สัญจรบนท้องถนน บางทีเราก็ไม่ประมาทแต่คนอื่นมักง่ายก็มี ขอบคุณนะครับที่มาเล่าสู่กันฟัง ผมเชื่อนะครับที่ว่าลอยตัวสูงประมาณตึก 2 ชั้น เพราะว่าผมเองก็เคยเจอ อุบัติเหตุแบบนี้มาแล้วรถเก๋งตัดหน้าผม ผมขี่มอไซด์มา มีสติตลอดเวลาครับ จำได้ว่าตอนกระเด็นลอยตัวสูงมาก ตีลังกาในอากาศอีก 5 รอบ ก่อนจะลงมายืนเฉยเลยถือว่าผมโชคดีมากๆเลย (ใช้วิชาตัวเบา) คนที่เห็นเหตุการณ์เขายังว่าผมลงมายืนแล้วเดินไปต่อว ่าคู่กรณีเฉยเลยแทนที่จะเป็นอะไรบ้าง ผมก็งงตัวเองครับสงสัยยังไม่ดวงขาด เมื่อมาดูสภาพรถเก๋งกะรถมอไซด์ผมแล้วตำรวจมาถามว่าคน ตายมูลนิธิเอาไปแล้วเหรอ...
__________________
งานหนักไม่เคยฆ่าคน
  #8  
เก่า 01-24-2010, 08:21 AM
รูปส่วนตัว BB 436
BB 436 BB 436 is offline
System & Operation
 
วันที่สมัคร: Apr 2008
กระทู้: 15,902
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง BB 436
มาตรฐาน

อุบัติเหตุเกิดได้ทุกเมื่อครับ อย่าประมาทเป็นดีที่สุด รอดมาได้ก็บุญแล้วนะนี่ เป็นกำลังใจให้นะครับ
__________________
รถทัวร์ไทยสายแข็งตะวันออก(((แสนสุข - บางพระ)))
  #9  
เก่า 01-24-2010, 10:55 AM
รูปส่วนตัว สายแข็งเพชรบูรณ์
สายแข็งเพชรบูรณ์ สายแข็งเพชรบูรณ์ is offline
NETWORK - RTT
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
กระทู้: 562
มาตรฐาน

อุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยที่ไม่คาดคิดมาก่อนน่ะครับ
__________________
ใครบางคนจะมีค่าก็ต่อ เมื่ออีกคนไม่มีใคร
  #10  
เก่า 01-24-2010, 11:05 AM
ตะวันคุง ตะวันคุง is offline
NETWORK - RTT
 
วันที่สมัคร: Oct 2009
กระทู้: 1,769
มาตรฐาน

อ่านแล้วน่ากลัวจังเลยครับ แล้วมันเป็นบทเรียนราคาแพงมากเลยนะครับ
__________________
[center]
รถทัวร์ทำให้ชีวิตมีสีสัน

หัวข้อถูกปิด



กฎการส่งข้อความ
คุณไม่สามารถเริ่มหัวข้อใหม่ได้
คุณไม่สามารถตอบกระทู้ได้
คุณไม่สามารถแนบไฟล์ได้
คุณไม่สามารถแก้ไขกระทู้ของคุณเองได้

โค้ด vB ใช้ได้
[IMG] โค้ด ใช้ได้
โค้ด HTML ใช้ได้
กระโดดไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:37 AM


Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2025, Jelsoft Enterprises Ltd.