ดูแบบคำตอบเดียว
  #16  
เก่า 01-10-2011, 06:54 PM
รูปส่วนตัว Phong
Phong Phong is offline
R.T.T Web Registered
 
วันที่สมัคร: Jun 2008
กระทู้: 491
มาตรฐาน

ตอนที่ 2...

ผู้เขียนดูจากลักษณะของการให้บริการ การจัดวางจำนวนเบาะที่ต่ำกว่าที่ บขส. กำหนด รายได้จากค่าโดยสารที่ได้มานั้น พออยู่ได้หรือมีกำไรครับ ในความเห็นของผู้เขียนเอง คิดว่า ให้บริการแบบนี้ยังมีกำไรอยู่บ้าง


ภาพประกอบจากเว็บดำรงศิลป์

จะว่าพออยู่ได้ก็ใช่ จะว่ามีกำไรก็ใช่ ต้นทุนที่เราบริหารกันมา อันไหนไม่จำเป็น เราก็ตัดไป อย่างเช่นพนักงานต้อนรับบนรถ เราก็เอาเด็กรถนี่แหละเป็นพนักงานต้อนรับ หรือการสั่งซื้อของมาเป็นจำนวนมากๆ ก็ลดต้นทุนไปได้บ้าง แต่การลดต้นทุนนี้ ต้องสู้กับราคาน้ำมันและอะไหล่ที่ถีบตัวสูงขึ้นไปทุก ที ซึ่งเราไม่สามารถปรับราคาค่าโดยสารได้เลย คนที่ขึ้นราคาอยู่ที่ ขนส่ง ไม่ใช่เราขึ้นเองได้ตามใจชอบ คือต้องเข้าใจว่ารถทัวร์เราวิ่งสายไกล ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง จะว่าอยู่ในภาวะจำยอมก็น่าจะเป็นเช่นนั้น หากใช้ก๊าซ...ต้นทุนก็ไม่ต่างกับใช้น้ำมันอยู่ดี เพราะต้องแบกรับน้ำหนักรถมากขึ้น ความเร็วรถช้าลง อะไหล่ต่างๆ ยิ่งสึกหรอมากขึ้นเท่านั้น ไหนจะต้องเข้ารถเช็กสภาพความปลอดภัยอะไรตามมามากมายอ ีก นอกจากเรื่องราคาน้ำมันแล้ว เรื่องอะไหล่ที่ราคาถีบตัวสูงขึ้นก็มีส่วนเช่นกันที่ ทำให้ต้นทุนเราสูงตาม ดูง่ายๆ อย่างยางรถยนต์ เมื่อก่อนยางเส้นละ 7,000 บาท ตอนนี้เส้นละ 14,000 บาท แล้วรถเราเป็นรถสองชั้น 8 ล้อ เปลี่ยนใหม่ทั้งคันก็เป็นแสน ที่สำคัญยางที่เราใช้ ใช้ยางปะดอกไม่ได้เลยสักเส้นเดียว เพราะหากเราใช้ยางปะดอกจะทำให้เกิดอันตรายแก่รถ ในเรื่องของการทรงตัว การเข้าเบรก การรับน้ำหนักรถ นอกจากนี้ยางล้อหลังที่เป็นยางเส้นเดี่ยว ต้องรองรับน้ำหนักเครื่องยนต์ที่อยู่ท้ายรถด้วย ซึ่งถือว่ายางคู่เส้นหลังนี้ รับภาระไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉลี่ยแล้ว อายุการใช้งานของยางรถเราอยู่ราว 1 เดือนบ้าง 2 เดือนบ้าง นานสุดก็ 6 เดือน ตามแต่สภาพ เห็นยางใกล้หมดสภาพ เราก็รีบเปลี่ยนทันที


ภาพประกอบจากเว็บดำรงศิลป์

ส่วนที่เลือกมาใช้เบาะกว้างแบบวีไอพี 24 ที่นั่งนั้น ก็เป็นไปตามตลาด(ความต้องการของผู้โดยสาร) หากเราเปิดบริษัท ด้วยรถสองชั้นเบาะกว้างแบบปกติ เราก็ไม่มีจุดเด่นอะไรไปสู้ใครเขาได้เลย และไม่สนองตอบต่อตลาดด้วย ซึ่งตอนเปิดบริษัทใหม่ๆ ผู้เขียนคงรู้สึกอึดอัดพอสมควรนะคะ กับการที่ไม่ได้นั่งรถเบาะกว้างนี้ เพราะตอนนั้นยังเป็นรถเก่า (97-4) พนักงานประจำรถก็พูดกับผู้เขียนเองในตอนนั้นว่า ถึงแม้รถเรายังเป็นรถเก่า แต่การบริการยังดีเหมือนเดิม ซึ่งรถคันที่ผู้เขียนได้เคยขึ้น ก็เปลี่ยนเป็นรถใหม่แล้ว

และก็...ทำไมบริษัทเรามีแต่รถสองชั้น คือเดี๋ยวนี้ไม่มีใครเขานิยมจ้างต่อรถชั้นเดียวกันแล ้ว หากมองในแง่ของการลงทุน ระหว่างรถชั้นเดียวจัดเบาะแบบวีไอพี 24 ที่นั่งก็จุได้แค่ 30 ที่นั่ง หรือให้เต็มที่ 32 ที่นั่ง กับรถสองชั้นที่จุได้คนมากกว่า ต้นทุนก็เปลี่ยนแปลงไม่มาก ค่าโดยสารก็เก็บเท่าเดิมแต่ตัวคูณเพิ่มขึ้น จึงนิยมรถสองชั้นกันมากขึ้นในระยะหลังๆ เราคิดดูแล้ว...รถสองชั้นมีความคุ้มค่ากว่ารถชั้นเดี ยว เราขอเพียงเที่ยวนั้นมีผู้โดยสารนั่งเต็มรถ แล้วเราส่งผู้โดยสารอย่างปลอดภัย เราก็ดีใจแล้วค่ะ



โปรดติดตามตอนที่ 3
ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม