ย้ายหมอชิต ใหม่ไปบางซื่อแทนรังสิต

[UBNavigator]

คมนาคมกลับลำ ย้ายหมอชิต ใหม่ไปบางซื่อแทนรังสิต ชี้เหมาะสมกว่า เพราะเป็นศูนย์กลาง
คมนาคมขนาดใหญ่ในอนาคต โดยมีแผนสร้างโมโนเรล เชื่อมพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งบางซื่อ-พหลโยธิน- สวนจตุจักร- กม.11 แก้ปัญหาจราจร ติดขัด
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่ามีแนวคิดที่จะย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(จตุ จักร) หรือหมอชิตใหม่มารวมอยู่ในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อแท นแผนเดิมที่จะย้ายออกไปอยู่ย่านรังสิต เนื่องจากเห็นว่าน่าจะเกิดการเชื่อมต่อระบบขนส่งและอ ำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้ประชาชนผู้ใช้บริการร ถไฟฟ้า รถโดยสารได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยมอบให้บริษัทที่ปรึกษาเร่งศึกษาความเหมาะสมแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้เห็นว่าสถานีกลางบางซื่อมีพื้นที่มากพอที่จะร องรับได้และยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร อีกด้วย เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ในอนาคตได้เตรียมสร้างให้เป็ นศูนย์การคมนาคมขนส่งขนาดใหญ่อยู่แล้ว โดยจะสามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วน รถโดยสาร ทางยกระดับดอนเมืองโทล์ลเวย์ รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส ที่จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีและจะสร้างแลมป์ให้รถสาม ารถเชื่อมต่อออกไปยังถนนโลคัลโรดได้ ด้วย
ส่วนที่จอดรถแท็กซี่ให้รวมไว้ใต้สถานีกลางบางซื่อ ขณะที่รถบัสขนาดใหญ่ อาทิ ขสมก. รถ บขส. ให้รวมเป็นจุดเดียวหรืออยู่ใกล้กันเพื่ออำนวยความสะด วกให้มากที่สุด นอกจากนี้ยังต้องการสร้างโมโนเรลให้สามารถเชื่อมต่อพ ื้นที่โดยรอบเข้าด้วยกันทั้งหมดเพื่อที่จะจำกัดรถอื่ น ๆ ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่นี้มากขึ้นในอนาคต อันจะเป็นการลดปัญหาจราจรที่นับวันย่านดังกล่าวจะรุน แรงขึ้นทุกวันจึงต้องรีบดำเนินการป้องกันตั้งแต่วันน ี้ ขณะนี้รอสรุปผลศึกษาและออกแบบความเหมาะสมจากสนข.และบ ริษัทที่ปรึกษา
ด้านนายสมชัย ศิริวัฒนโชค รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่าได้เตรียมขอรับการสนับสนุนงบประมาณของกองท ุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน(กปถ.) ปีละประมาณ 10 ล้านบาทเพื่อใช้พัฒนาความปลอดภัยในการให้บริการรถโดย สารประจำทาง โดยการจัดหาผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดำเนินการให้คำปรึกษา วางแผน และพัฒนาการประกอบกิจการขนส่งรถโดยสารประจำทาง และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการแต่ละรายใช้กลยุทธ์ทางกา รตลาดมาเสริมด้านการบริการเพื่อดึงผู้โดยสารให้หันมา ใช้บริการรถโดยสารเพิ่มมากขึ้น โดยไม่เพิ่มราคาหรือเก็บค่าโดยสารในราคาที่ไม่แพงเกิ นไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,552 29-31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ลิงค์ไปดูได้ที่ http://www.thannews.th.com/index.php...te-&Itemid=478