กลับมาได้อาทิตย์ นึงแล้วครับ
เล่าให้ฟังก็แล้วกัน
วันเดินทางผมออกเดินทางวันที่ 2 กุมภาพันธ์ รถออกจาก บขส.เมืองเลยตามเวลา 08:00 น. ไปถึงด่านประมาณ 09:00 ก็ทำพิธีการผ่าน ตม. ขาออกมีคนข้ามพร้อมกับผมแค่ 6 คนเอง
มีผมเป็นคนไทย แล้วก็ จนท.ของ บขส.อีก 2 คน แล้วก็คนลาวอีก 2 คน
พอข้ามไปฝั่งลาวก็แวะรับคนลาวที่้ต้องการจะเดินทางไป ตลอดทาง ตั้งแต่ เมืองแก่นท่าว เมืองปากลาย ตลอดเส้นทางก็รับผดส.ชาวขึ้นรถมาด้วย เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะเปิดเรียน นักเรียน นักศึกษา ก็จะเดินทางไปเมืองหลวงพระบางกันเยอะ หากไม่ได้ขึ้นรถเที่ยวนี้ ก็ต้องเหมารถไปเองค่า เหมาก็ 4-5,000 บาท
รถเดินทางมาถึงเมืองเพียง (ก่อนถึงเมืองไซยะบุลี) ก่อนจะจอดกินข้าวเที่ยง(รวมอยู่ในค่าตั๋ว 700 บาท/คน)
จนท.บนรถก็จะเดินมาถามว่า มื้อเที่ยงจะรับอาหารแบบไหน ก็จะมีเฝอ ข้าวผัด ผัดกระเพา (ลักษณะก็เหมือนจุดจอดรถที่วิ่งระหว่างจังหวัดของไทย นี่แหละครับ มีการเก็บปี้(ตั๋วโดยสาร) เป็นต้นขั้วสำหรับให้ร้านด้วย
รสชาติอาหารก็พอได้
เนื่องจากวันนี้มีการรับ ผดส.ตลอดท้าง จนท.ประจำรถบอกว่า เที่ยวนี้ใช้เวลาเยอะกว่าปกติ (กินข้าวเที่ยงเอาบ่ายโมงกว่าๆ)
พอออกจากเมืองเพียงก็มุ่งหน้าไปยังเมืองไซยะบุลี รถจอดให้ ผดส.ลงที่ สถานีขนส่งประจำเมืองไซยะบุลี ที่อยู่นอกเมือง (จอดประมาณ 2 นาที) แล้วก็เดินทางต่อมุ่งหน้าไปยังสะพานข้ามแม่น้ำโขง (ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่)
เมื่อข้ามแม่น้ำโขง ก็ถือว่า เข้าเขต แขวงหลวงพระบางแล้ว ก็จะวิ่งผ่าน เมือง นาน(ภาษาอังกฤษ สะกดว่า nan ไม่รู้จะอ่านออกเสียงยังไงดี
เมื่อผ่านเมืองแนน แล้วก็จะเริ่มขึ้นภูเขาแล้ว สภาพทางก็ยังเป็นลูกรังอัดแน่น สลับกับการราดยางเป็นช่วงๆ เมื่อขึ้นไปถึงช่วงที่วิ่งอยู่บนเขา ถนนก็กลายเป็นราดยางซะส่วนใหญ่ ยกเว้นจุดที่มีทางน้ำไหลผ่าน ก็เป็นทางเบียง บ่างไปเรื่อย จนใกล้ถึงเมืองเงิน(ที่จะแยกกลับ นครหลวงเวียงจันทร์) ก็จะเป็นทางราดยางอย่างดีแล้ว รถก็วิ่งไปเรื่อยๆ จนถึงปลายทาง สถานีขนส่งสายใต้ของหลวงพระบางเวลาประมาณ 18:30 น.
สรุปคือ ขาไปใช้เวลา 10 ชม.ครึ่ง เนื่องจากเสียเวลา
ส่วนขากลับผมออกจาก หลวงพระบาง 08:00 เหมือนเดิม มาถึง สถานีขนส่งเลย 16:30 น.ใช้เวลา 8 ชม.ครึ่ง
ขากลับมีผู้โดยสารข้ามด่าน 3 คนเป็นผมคนไทย 1 คน และ คนลาว 2 คนครับ
ใครมีข้อสงสัยถามได้ครับ พอดีรูปมีเยอะไม่ได้เอาไปฝากไว้เลยไม่มีให้ดู แต่ถ้าอยากดู ยังไงจะลองหาที่ฝากครับ
|