ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับผู้โดยสาร
1. อย่าลืมครับว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นระดับรากหญ้า จนกระทั่งวัยคนทำงานในเมืองหลวงที่ต้องหาเช้ากินค่ำ (ยิ่งยุคข้าวยากหมากแพงอย่างนี้แล้ว เหอะๆ ไม่อยากจะนึกถึง)
2. การเชื่อมต่อระหว่างสถานีขนส่ง ต่อ สถานีขนส่ง มันจะไกลกันลิบลับ
3. ผู้โดยสารโซนเขตเมืองชั้นใน เช่น ย่านพระนคร สะพานพุทธ เยาวราช บางรัก หัวลำโพง ป้อมปราบฯ ดุสิต จะเดินทางไกลกว่าเดิม หากย้ายไปรังสิต
4. น่าเห็นใจผู้โดยสารย่านสมุทรปราการ พระประแดง มหาชัย กระทุ่มแบน อ้อมใหญ่ อ้อมน้อย หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ ท่าพระ บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ธนบุรี ที่จะเดินทางไกลขึ้นไปถึงรังสิต
5. จะเอารถเมล์มารองรับการขนถ่ายน่ะเหรอ รับรองผู้โดยสารเพียบแน่ เพราะมันไกลเกินกว่าจะจ่ายค่าแท๊กซี่ ที่ดูแล้วจะแพงกว่าค่ารถทัวร์ ป.1 ด้วยซ้ำ ถึงกระนั้นก็ต้องนั่งรถเมล์เพราะความจำยอม (ย้ำ ความจำยอม) ซึ่งข้อนี้ เราทั้งหลายก็รู้กันดีว่า รถติด นั่งรถเมล์กว่าจะถึง เสียเวลา ตกรถแน่
6. อีกทางเลือกที่บางคนคิด โห.. ไกลไป ไปรถรถไฟดีกว่า (แต่ก็อย่างว่า เรารู้ๆกัน รถไฟบ้านเราเป็นอย่างไร หวานเย็น ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง ก็ต้องไป เพราะความจำยอม ย้ำ ความจำยอม)
7. อีกทางเลือก สำหรับคนที่มีสตางค์หน่อย คือ ขึ้นเครื่อง กับสายการบินโลว์คอร์ส ก็ยังดีที่บางทีมีโปรโมชั่น แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่เป็นทางเลือกหลักของมวลชน (ยกเว้นคนที่ยกตัวเองขึ้นว่ามีระดับๆหน่อยถึงจะได้นั ่ง)ประชาชนตาดำๆ เอาประหยัดๆอย่างรถไฟและรถทัวร์ก็พอ
8. อีกทางเลือก คือ วินรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า ทำให้ต้องเพิ่มรอบวิน เพิ่มรถ ส่งผลให้รถแออัดและติดเพิ่มขึ้น อันตรายจากรถที่เพิ่มวินมีสูงขึ้นอีก แต่ทำไงได้ ก็ต้องไปเพราะไปรถทัวร์ช้า และไม่สะดวก
9. อีกทางเลือกในมุมมืด คือ จะมีรถตู้ผี เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เช่น วิ่งรับส่งจากกรุงเทพ-ร้อยเอ็ด กรุงเทพ-ยโสธร เป็นต้น โดยเขาจะมารับถึงที่ที่เราอยู่และส่งถึงที่ที่เราไป ซึ่งราคาพอๆกับค่ารถทัวร์ ป.1 จึงเป็นทางเลือกที่รับรองผู้บริหาร บขส. หรือ รฟท. อาจจะไม่คาดคิดว่า มีงี้ด้วยหรือ?
10. เหมารถแท็กซี่ หรือเหมารถตู้ รถอื่นๆ ไปเอง ยอมเสียแพงเป็น 3000-4000-5000บาท ก็ยอม ดีกว่า เสียเวลาไปต่อรถขนาดนั้น
10. ทางเลือกสุดท้าย ตูขับรถไปเอง สะดวก สบายใจกว่า แต่เสียอย่างหนึ่ง คือ ค่าน้ำมันแพง ไม่คุ้ม ขนาดบางคนยังจอดรถทิ้งไว้ที่บ้านแล้วนั่งรถทัวร์ต่อไ ปยังต่างจังหวัดก็มี
11. สงสารก็แต่คนหาเช้ากินค่ำ แล้วใช้การโดยสารรถทัวร์บ่อยๆ ที่จะต้องต่อรถเอาหนักเอาการขนาดนั้น
12. บางคนบอก มีรถหมวด 3 วิ่งระหว่างจังหวัดนี่ เท่าที่ดูยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก และบางสายวิ่งไป-กลับ แค่วันละเที่ยว จึงสรา้งความไม่สะดวกให้กับผู้โดยสาร อีกทั้งนายท่าก็ล็อคที่นั่งไว้แต่ละท่ารถจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสาร
เอาล่ะ เมื่อปัญหามันเกิดขึ้น ก็จะต้องไปดูถึงต้นเรื่อง ต้นตอ ว่าทำไม บขส.(หมอชิต2) ถึงต้องย้าย
1. รฟท.จะเอาพื้นที่คืน (อาจจะเป็นเพราะข่าวว่า บขส.จะเปิดโรงแรมขึ้น)
2. ประเด็นที่ว่า จะสร้างที่จอดรถไฟฟ้าในอนาคต (เป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลมากนัก เพราะเท่าที่ดูจากแผนที่บนอินเทอร์เน็ท ยังมีพื้นที่ว่างเหลือเยอะเกินกว่าจะสร้างสถานีรถไฟไ ด้ 2 แห่งด้วยซ้ำ)
ถ้าต่างฝ่ายต่างมองว่า เพื่อให้ 2 หน่วยงานร่วมสร้างและพัฒนาประเทศไทย(จริงๆ) ตามความคิดเห็นของผม มีดังนี้
1. ให้ บขส.อยู่ที่หมอชิต 2 เหมือนเดิม (แล้วไม่ต้องสร้างโรงแรม)
2. ในอนาคตตรงย่านสถานีรถไฟพหลโยธินนั้น ทำเป็นสถานีกรุงเทพ(ดังที่ รฟท.ได้คิดไว้)
3. พอถึงช่วงเทศกาล เมื่อรถไฟหมด ก็ต่อรถทัวร์ ใครไม่อยากนั่งรถทัวร์ ก็ไปนั่งรถไฟแบบประหยัดๆ อยู่เคียงคู่กันอย่างนั้น รายได้ของชาติ รายจ่ายของผู้โดยสาร ก็จะได้ไม่มีอุปสรรค หาก 2 หน่วยงานนี้มีศักยภาพจริง
เอาล่ะ ขนาดขนส่งสายใต้ เรายังเห็นปัญหาแล้วว่า ในความเป็นจริงระบบโครงสร้างการขนส่งและเชื่อมต่อยัง ไม่ซัพพอร์ตกับผู้โดยสาร ซึ่งเราก็เห็นกันอยู่แล้ว หากจะย้ายไปรังสิตขนาดนั้น เชื่อได้เลยว่า ตามอู่รถของบริษัททัวร์ต่างๆคงเป็นที่รับส่งผู้โดยสา รเพิ่มขึ้นแทน บขส.รังสิต กระมัง
|