ส่วนตัวคิดต่างครับเพราะ การทำธุรกิจมันต้องมีกำไรบ้าง ไม่ใช้ธุรกิจการกุศล ต้นทุนรถคันหนึ่งเท่าไหร่ ค่าบำรุงรักษาเท่าไหร่ ค่าบริหารจัดการเท่าไหร่ การที่ราคาน้ำมันลดลง มันลงไม่ถึงสามบาทเลยครับ แล้วก็รู้ๆกันอยู่ว่าราคาน้ำมันโดยรวมแล้วมันมีแต่ขึ ้นไม่มีลง ถามว่าวันนี้น้ำมันลดราคา แต่เชื่อผมเถอะอีกไม่กีเดือนเดี๋ยวมันก็ขึ้น เเล้วถามว่าถ้าหากราคาน้ำมันมันขึ้น บริษัทรถทัวร์เหล่านี้ก็ต้องทำเรื่องขอขึ้นราคาอีก แแล้วประชาชนทั่วไปพอเห็นข่าวประกาศขอขึ้นราคาน้ำมัน ก็จะออกมาป่าวประกาศด่าเจ้ยั่งงั้นอย่างนี้ กันอีก ส่วนตัวคิดว่าการลดราคาน้ำมันครั้งนี้มันจะลดอยู่ได้ แค่ไม่กี่เดือนหรอกครับเดี๋ยวมันก็ขึ้น ซึ่งถ้าหากว่าลดราคาค่าโดยสารตอนนี้ เเล้วพอน้ำมันขึ้นอีกครั้ง แล้วพวกรถทัวร์ขอขึ้นค่าโดยสารแล้วรัฐไม่ยอมให้ขึ้น ใครจะช่วยได้ล่ะครับที่นี้ ผมพูดตรงๆนะครับว่าผมไม่อยากเห็นบริษัทรถทัวร์ต้องตา ยไปที่ล่ะรายสองราย แล้วเห็นรถตู้ออกมาวิ่งแทน ผมในฐานะคนรักรถทัวร์คนหนึ่งผมไม่อยากเห็นวันที่รถตู ้ครองเมืองครับ ถ้าคุณลองคิดดูดีๆว่าวันนี้รถทัวร์บ้านเรามันไปขนาดไ หนกันเเล้วทั้งตัวรถเเละสิ่งอำนวยความสะดวกมันไปไกลเ กินกว่ามาตฐานของรถเเล้วครับ ซึ่งเมื่อเที่ยบกับราคาที่จ่ายไปผมว่ายังไงมันก็คุ้ม หากจะให้บริษัทรถทัวร์พวกนี้พอได้กำไรเพิ่มนิดๆหน่อย ๆจากช่วงเวลานี้บ้างผมว่ามันก็คงไม่เท่าไหร่หรอกมั่ง ครับ แล้วหลายๆคนบอกว่าอ่าวเเล้วรถแก๊ชล่ะทำไมไม่คิดราคาเ เก๊ชแบบนี้มันก็เหมือนการเอาเปรียบผู้โดยสารซิ ผมอยากให้คุณลองนึกดูว่าในปัจจุบันรถทัวร์ไทยติดแก๊ช ครบกันทุกคันรึ่ยังครับ ผมตอบได้เลยว่าไม่ เพราะอะไรนะเหรอครับก็เพราะว่าแต่ล่ะบริษัท ก็มีเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องเเก๊สที่ต่างกัน ซึ่งถ้าหากจะให้แต่ล่ะบริษัทเก็บราคาตามเชื่อเพลิง คุณลองคิดดู บริษัท A ติดเเก๊ส เก็บค่าโดยสาร 150 ส่วนบริษัท Bเติมน้ำมัน คิดราคาน้ำมัน เก็บค่าโดยสาร 450บาท คุณลองคิดดูผู้โดยสารจะไปบริษัทไหน ดังนั้นบริษัท B มันก็ไม่ตายเอาเหรอครับ
