ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 08-28-2011, 03:13 PM
รูปส่วนตัว Godzela
Godzela Godzela is offline
Administrator
 
วันที่สมัคร: Apr 2008
กระทู้: 1,941
มาตรฐาน

ก่อนจะพูดจะว่าก็คงต้องหาข้อมูลกันนิดครับ

วันที่ 2 ก.ย.นี้ จะมีการประชุมกันที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะยังยืนตามรา คาเดิมหรือจะปรับลดอย่างไร แต่จากการหารือกันเบื้องต้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้ยืนอัตราโดยสารเดิม เนื่องจากอัตราค่าโดยสารตามประกาศของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบก ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คิดตามอัตราที่ 12 คือราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 23.50-24.71บาท แต่ขณะนี้น้ำมันดีเซลลงไปลิตรละ 3 บาทแล้ว หากยึดตามประกาศดังกล่าวจะต้องใช้อัตราที่ 14 คือราคาน้ำมันอยู่ที่ 25.94-27.15 บาท นั่นหมายถึงต้องเพิ่มราคาค่าโดยสารขึ้นจากอัตราปัจจุ บันอีก กม.ละ 2 สตางค์ ฉะนั้น ผู้ประกอบการจึงเห็นว่าไม่ควรปรับลดค่าโดยสารลงอีก

"รถ บขส.จะปรับลดอย่างไรก็สามารถปรับได้ เพราะไม่มีต้นทุนอะไร และเป็นเจ้าของสัมปทาน ส่วนรถร่วม บขส.นั้นเป็นผู้รับสัมปทาน มีค่าใช้จ่ายจิปาถะ เช่น ค่าสัญญา และค่าปรับโดยโต้แย้งไม่ได้ หากไม่จ่ายก็วิ่งไม่ได้ จึงมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นมากมาย ปัจจุบันรถโดยสารเลิกกิจการไปหลายรายแล้วประมาณ 30-40% เพราะสู้ไม่ไหวตั้งแต่รถตู้กว่า 3,000 คันเข้ามาแย่งลูกค้าไป ไม่ใช่ว่าสมาคมฯ ไม่เห็นด้วยกับ บขส.แต่สิ่งที่ทำได้ ก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่" นางสุจินดา กล่าว

นางสุจินดา ย้ำว่า ขณะนี้รถร่วมจะยังคงยืนราคาค่าโดยสารเดิมไปก่อนจนกว่ าจะหารือกันในคณะกรรมการฯ วันที่ 2 ก.ย. หากมีมติอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น การปรับลดค่าโดยสารของ บขส.เป็นเรื่องดี เพราะประชาชนได้มีทางเลือกว่าจะใช้บริการ บขส. หรือรถร่วม ทางสมาคมฯ ขอฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่นี้ว่า อยากให้เดินหน้าในนโยบายที่เคยพูดไว้กับประชาชนไปก่อ น และขอให้ฟังเสียงของผู้ประกอบการเดินรถโดยสารบ้าง.-สำนักข่าวไทย
__________________
<marquee behavior=alternate scrollamount="2" scrolldelay="50" width="100%">http://www.rottourthai.com/image.php...2&type=profile<img src="http://www.rottourthai.com/image.php?type=sig pic&userid=3&dateline=1272455417" height="120"><img src="http://f.ptcdn.info/237/011/000/1382443482-o5261-o.gif" height="120"></marquee>
ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม